การนอนละเมอในผู้ใหญ่นั้นยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดจากสาเหตุใด แต่สันนิษฐานว่า อาจเกิดจากสิ่งเร้าบางอย่าง เช่น ความเครียด เสียงดัง การดื่มสุราหรือการกินยานอนหลับ
ในคนปกติ การนอนละเมอจะเป็นเพียงช่วงสั้นๆ เท่านั้นไม่กี่วันก็หายไปเอง แต่ถ้าเป็นนานมากและค่อนข้างบ่อย จนรบกวนชีวิตประจำวัน เช่น ตื่นเช้ามาแล้วรู้สึกว่าหลับได้ไม่เต็มที่ ร่างกายอ่อนเพลีย ไม่มีสมาธิในการทำงาน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อลดความเครียดและประพฤติกรรมที่อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดการนอนละเมอและในบางรายอาจต้องใช้ยาเพื่อปรับคุณภาพการนอนให้ดีขึ้น
ในแง่มุมของนักวิทยาศาสตร์ การฝัน นับเป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติของสมอง ซึ่งบางส่วนยังคงทำงานสานต่อกันเป็นการเห็น ได้ยินและสัมผัสต่างๆ โดยปราศจากการควบคุมจากซีรีบรัม (Cerebrum) ทำให้ความฝันทั้งหมดแปลกและพิสดารเกินกว่าจะเกิดขึ้นในชีวิตจริงได้
ส่วนในแง่มุมของนักจิตวิเคราะห์นั้นถือว่า ความฝัน เป็นสิ่งสะท้อนจิตในส่วนลึกตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ทั้งความสุข สมหวัง ความทุกข์และความผิดหวัง จึงสามารถนำความฝันมาใช้ในการทำจิตบำบัด (Psychotherapy) แก่ผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตได้
สิ่งที่มีอิทธิพลกับความฝัน มีดังนี้
1. สภาพจิตใจ
2. การแพ้อาหารหรือยาบางชนิด
3. การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมาก ซึ่งรบกวนการนอนหลับอย่างสงบ
4. การเจ็บไข้ได้ป่วย
5. สภาพแวดล้อมของห้องนอน เช่น อากาศร้อน-เย็น แสงสว่างหรือเสียงที่รบกวน ล้วนสร้างความกดดันให้แก่ร่างกายและจิตใจและอาจสะท้อนออกมาในความฝันได้
6. การมีรอบเดือน อาจมีอิทธิพลต่อผู้หญิงบางคน
7. ทิศทางของที่นอน บางคนแนะนำว่า ถ้าคุณหันหัวนอนไปทางขั้วแม่เหล็กโลกขั้วเหนือ (North pole) เพื่อให้สนามแม่เหล็กไฟฟ้าในร่างกายเราสอดคล้องกับสนามแม่เหล็กโลก ซึ่งจะทำให้คนเรามีความกลมกลืนกับพลังงานตามธรรมชาติ ช่วยให้หลับได้สนิท
การนอนละเมอ (Sleepwalking) คือ การทำกิริยาต่างๆ โดยไม่รู้ตัวในขณะที่กำลังหลับและเมื่อตื่นขึ้นมาจะจำไม่ได้
การนอนละเมออาจจะมาจากจินตนาการในความฝัน
การละเมอ เกิดจาก 2 สาเหตุใหญ่ คือ
1. สิ่งกระตุ้นจากภายนอก เช่น หนังเขย่าขวัญ ภาพน่ากลัวหรือกิจกรรมในตอนกลางวันอันชวนตื่นเต้น ทำให้ฝังใจแม้ในยาม
หลับก็ยังนึกถึง
2. สิ่งกระตุ้นจากภายใน ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งความเครียด ความเหนื่อยล้า กรรมพันธุ์ การปรับเปลี่ยนเวลานอน เช่น การทำงานทั้งวันทั้งคืนโดยไม่ได้พักผ่อนหรือการคิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ก่อนนอน
การนอนหลับของเด็กจะมี 2 ช่วง เรียกว่า ช่วงหลับตื้น (REM Sleep) และช่วงหลับลึก (Non-REM Sleep) ซึ่งเป็นช่วงระยะหลังจากหลับไปแล้ว 2-3 ชั่วโมง และการละเมอก็จะเกิดขึ้นในหลับลึก
ปัญหาการนอนละเมอในเด็ก มี 2 แบบ คือ
1. ละเมอฝันผวา (Night terror) ส่วนมากเกิดในเด็กอายุ 4-7 ปี เนื่องจากระบบประสาทของเด็กยังพัฒนาไม่เต็มที่ การจัดเรียงข้อมูลในสมองจึงยังไม่เป็นระเบียบนัก โดยเด็กมักตกใจตื่นอย่างฉับพลัน บางครั้งก็หวีดร้อง แต่เมื่อตื่นขึ้นมาเด็กจะจำอะไรไม่ได้
วิธีแก้ไข คือ อุ้มเด็กมากอดไว้ ลูบหัว ตบก้น โยกตัวเบาๆ และปลอบให้นอนต่อ เพราะถึงอย่างไรก็ตามเด็กก็จะจำความฝันนี้ไม่ได้อยู่ดี
2. ละเมอเดิน (Sleepwalking) มักเกิดขึ้นในเด็กโโดยอาจเดินไปรอบๆ ห้องหรือเดินไปนอกห้องหรือนอกบ้านทั้งๆ ที่ไม่รู้ตัวและเมื่อตื่นมาก็จะจำอะไรไม่ได้เช่นกัน
วิธีแก้ไข คือ เบื้องต้นควรปรับสภาพแวดล้อมห้องเพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้น โดยจัดห้องให้โล่ง ปิดประตู-หน้าต่างห้องให้แน่นหนา และไม่ควรใช้เตียงสองชั้น ในบางครั้งผู้ปกครองอาจเล่านิทานน่ารักๆ หรือเปิดเพลงให้เด็กฟังก่อนนอนเพื่อเป็นการผ่อนคลายก็ได้
พักสายตาสักนิด..ดูคลิปธรรมชาติสบายๆ
นอนละเมออันตรายนะ
อาการละเมอเป็นอาการที่พบเห็นได้และเกิดขึ้นโดยเจ้าตัวไม่รู้ตัว อาจเกิดจากความฝันของเจ้าตัวเอง ผมเองก็เคยนอนละเมอ แต่เกิดขึ้นนานมาแล้วคือ ละเมอขึ้นมาอาบน้ำ(อันนี้แม่เล่าให้ฟัง) บอกแม่ว่าร้อนแล้วก็เดินไปอาบน้ำแม่เห็นว่าตาปรือ ๆ หลับตาเลยตามไปดูปรากฏว่า ถอดเสื้อผ้าแล้วตักน้ำขึ้นมาอาบตอนตี 2 แล้วแต่งตัวกลับไปนอนต่อตื่นเช้าขึ้นมาแทบไม่รู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น(ตอนอายุ 12)
ประสบการณ์ ที่เคยประสบพบเจอกับคนรู้จักก็มี เพื่อนคนนึงเป็นคนละเมอที่ค่อนข้างไปในทางลามกสักหน่อย เคยเจอครั้งนึงเพื่อนคนนั้นละเมอโดยการช่วยตัวเอง ตอนแรกนึกว่าเพื่อนแกล้งหรือเป็นเกย์ แต่ไม่ใช่หลังจากการพูดคุยกันมันก็บอกว่าไม่เคยรู้ตัวเลยต้องให้ไปหาหมอครับ เพราะเป็นการละเมอที่ค่อนข้างอันตรายอาจจะโดนกล่าวหาว่าเป็นโรคจิตได้
**อีกคนละเมอแปลกประหลาดเวลานอนจะเอาแขนมากอดเพื่อนแต่ไม่ถึงตัวครับ จะค้างอยู่กลางอากาศแล้วค้างอยู่อย่างนั้น ตอนแรกนึกว่ามันแกล้งครับเพราะหน้าตากรุ้มกริมอมยิ้ม แต่ลองพิสูจน์และสอบถามดูปรากฏว่าละเมอจริง ๆ ช่วงหลัง ๆ อาการเริ่มหนักละเมอไปลูบหน้าอก(เพื่อนผู้ชาย) แรก ๆ ก็เสียวดี นาน ๆ ไปก็ไม่ไหวเริ่มเคล้ม 5555+ หลังสุดอันนึ้หนักเลยครับ เพื่อนผู้หญิงมาทำรายงานที่ห้องแล้วดันละเมอไปลูบขาผู้หญิงเค้า ก็เลยโดนตบไปฉากใหญ่ 555 แต่ก็เคลียร์กันได้เพราะว่าเพื่อนมันละเมอจริงจริง
**อีกราย ไม่รู้ว่าเป็นการละเมอหรือปล่าวคือชอบนอนกัดฟันดังมาก และกัดทั้งคืนด้วยเป็นอัันตรายต่อฟันเป็นอย่างยิ่งและทำให้คนอื่นนอนไม่หลับ ด้วย
**รายสุดท้ายอันตรายสุด ชอบละเมอเดินออกไปที่ระเบียงห้อง แล้วทำท่าจะกระโดดดีที่ผมอ่านหนังสืออยู่เลยไปช่วยไว้ทัน ตอนหลังเลยต้องย้ายหอไปอยู่ห้องที่ด้านหลังมีลูกกรง
เรียบเรียงข้อมูลเพิ่มเติมโดย musa