Custom Search

บทความที่ได้รับความนิยม

Translate

คฤหาสน์ปริศนา เวลาไม่คงที่


คฤหาสน์ปริศนา เวลาไม่คงที่
นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันกลุ่มหนึ่ง เข้าตรวจสอบบ้านโบราณที่สร้างเอาไว้กลางหุบเขา ซึ่งทีแรกสงสัยว่าเป็นบ้านผีสิง ต่อมาพบว่ามีความเร้นลับยิ่งกว่านั้น และกำลังอยู่ในช่วงพิสูจน์หาความจริงให้แน่ชัดว่าบ้านหลังนี้เป็นประตูผ่านมิติเวลาหรือไม่?

คฤหาสน์ทรงยุโรปโบราณแห่งนี้มี 3 ชั้น ตั้งอยู่ในพื้นที่เปล่าเปลี่ยวริมเชิงเขาหัวโล้นบนพื้นที่ 15.5 เอเคอร์ หรือราว 31 ไร่ ทางตะวันออกของรัฐโอเรกอน หรือไม่ไกลจากเมืองราโกไทร์เท่าใดนัก ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1920 หรือ 85 ปีก่อน เมื่อเจ้าของบ้านดั้งเดิมซึ่งเป็นเจ้าของฟาร์มคนแรกเสียชีวิตลง ลูกหลานก็อพยพไปอยู่ในเมือง ทิ้งให้คฤหาสน์ร้างผู้คนมานานหลายสิบปี

จนกระทั่งคนในตระกูลเอลเมิร์ทได้ประมูลซื้อมาเป็นกรรมสิทธิ์เมื่อ 40 ปีก่อน หลังจากซ่อมแซมบูรณะทั้งหลังให้มีสภาพดีเหมือนเดิม ก็ใช้เป็นบ้านพักตากอากาศ

“คฤหาสน์หลังนี้ พ่อของเราประมูลมาได้ พวกเราก็ช่วยกันซ่อมแซมหลังจากที่พ่อเสียชีวิตลง” จอร์น เอลเมิร์ท อายุ 53 ปี วิศวกรไฟฟ้าประจำบริษัทแห่งหนึ่งที่เมืองพอร์ทแลนด์กล่าว “ผมจำได้ไม่ลืม เมื่อมาพักในบ้านจนหลังนี้ มักมีอะไรแปลก ๆ ให้พวกเราตื่นเต้นกันเสมอ อาจเป็นเพราะพวกเราจะมาพักนาน ๆ ครั้งก็ได้ ตั้งแต่เราเป็นเด็ก พ่อชอบพาเรามาพักที่นี่ในช่วงฤดูร้อน มาตอนนี้ก็มีครอบครัวของผม และครอบครัวของพี่ชายพาลูกหลานมาพักค้างคืนปีละครั้งหรือสองครั้ง”
เจ้าของที่ดินคนเดิมที่สร้างคฤหาสน์ปริศนา
“สิ่งแปลก ๆ ที่ผมเห็นทีแรกก็คิดว่าเป็นเหตุธรรมดาของบ้านเก่าแก่ ที่มักจะมีอะไรประหลาด ๆ เกิดขึ้นเสมอ แต่เมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา ผมพาครอบครัวมาพักที่นี่ถึง 3 สัปดาห์ โดยผมเอางานพิเศษมาทำด้วยก็เลยพักได้นานหลายวัน” จอร์นกล่าว

“เมื่อมาพักหลายวัน ผมกับลูกและภรรยา มีเวลาได้สังเกตสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้น ซึ่งบางเหตุการณ์มาถึงบัดนนี้ ผมกับนักวิทยาศาสตร์คนอื่น ๆ ก็ยังไม่อาจหาคำอธิบายได้”
เหตุการณ์ประหลาดที่ไม่อาจหาคำอธิบายได้ เช่นอุปกรณ์เครื่องมือช่างที่ทำด้วยโลหะ มักเคลื่อนที่เองได้จากห้องหนึ่งไปยังห้องหนึ่งในบางห้องโทรศัพท์มือถือไม่อาจใช้งานได้เพราะไม่มีสัญญาณ เช่นเดียวกับอุปกรณ์วัดจีพีอาร์เอสที่จู่ ๆ ก็ดับกะทันหัน ไม่อาจใช้งานได้ ราวกับว่าบางห้องเป็นสูญญากาศ เป็นมิติที่ไม่มีกาลเวลา

“พวกเรายังพบอีกว่า บางห้องมีจุดหนาวเย็นยะเยือก เรารู้สึกได้ชัดเจน เมื่อเดินเข้าไปในห้องนั้น อุณหภูมิลดพรวดจากปกติกว่า 10 องศา เลยทีเดียว”
เมื่อพบเหตุประหลาดอย่างซึ่งหน้าเป็นครั้งแรก ตามวิสัยของนักวิทยาศาสตร์ จอร์น จึงให้ทุกคนช่วยกันสังเกตความเปลี่ยนแปลงเพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการวิเคราะห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปลี่ยนไปอย่างฉับพลันของภูมิอากาศในบ้านกับนอกบ้าน รวมทั้งความแตกต่างระหว่างห้องอีกด้วย

“ผมสังเกตว่า เมื่ออยู่ในห้องหนึ่ง เมื่อมองออกนอกหน้าต่างออกไปภายนอกเหมือนเมฆฝนกำลังตั้งเค้ามาแต่ไกล แต่พอเดินลงชั้นล่างและมองออกไป พบว่าภายนอกเหมือนกับฝนเพิ่งตกผ่านไปได้ไม่นาน ผมไม่สิ้นสงสัย จึงเดินไปอีกห้อง มองออกไปภายนอก พบว่าฝนกำลังตกอยู่ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกพิศวงงงงวยมาก”

“ผมเริ่มจดบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละห้อง รวมทั้งให้ลูกมาช่วยกันบันทึกว่าได้พบเหตุอะไรบ้าง”

“วันต่อมา ผมมองจากหน้าต่างชั้นสาม พบฝูงนกสตาร์ลิ่ง (นกชนิดหนึ่ง คล้ายกับนกเอี้ยง) บินเป็นวงกลามบริเวณสนามหลังบ้าน มันบินวนอยู่นานเกือบชั่วโมง ราวกับสมองของมันขาดการนำร่อง ซึ่งเกิดจากสนามแม่เหล็กโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงโดยกะทันหัน ผมจึงเดินมายังหน้าต่างชั้นสามหน้าบ้านเพื่อดูว่ามีฝูงนกบินวนหรือไม่ ผมกลับเห็นอากาศทึม ๆ ใกล้ค่ำ พบฝูงนกกำลังจับเจ่าบนคอนเพื่อเตรียมตัวนอน”

ความพิศดารมีถึงระดับที่ แต่ละห้องเข้าไปนั่นมีความแตกต่างทั้งวันและเวลา วิศวกรจอร์น จึงหาทางพิสูจน์ว่าแต่ละห้องมีระยะเวลาแตกต่างกันอย่างไร โดยให้ลูกชายวัย 19 ปี ชื่อพอล มาช่วย โดยจอร์นให้ลูกชายถือวอล์คกี้ ทอล์คกี้ (วิทยุสื่อสาร) สำหรับพูดสื่อสารกันในขณะที่แยกกันอยู่ในห้องติดกัน เมื่อพูดพอลจะต้องเคาะฝาผนังให้สัญญาณไปด้วย

ปรากฏว่าเสียงพูดของพอลแต่ละคำผ่านวิทยุสื่อสารกว่าจะส่งมาถึงวิทยุมือถือของจอร์น ใช้เวลาเดินทางถึง 18 นาที การพิสูจน์ทำต่อไป จากบางห้องถึงบางห้องสัญญาณวิทยุต้องเดินทางถึง 1 วัน จึงจะมาถึงอีกเครื่อง ยิ่งคลื่นเสียงให้เวลาเดินทางมาก แสดงว่ามีระยะทางอยู่ห่างกันมาก
[จอร์น เอลเมิร์ท วิศวกรไฟฟ้า ผู้ค้นพบความเร้นลับที่คฤหาสน์โรงนา]
จอร์นนำข้อมูลทั้งหมดมอบให้แก่นักฟิสิกส์ ซึ่งเป็นอาจารย์สอนวิชาฟิสิกส์ที่มหาวิทยาลัยที่เขาเคยเรียน ซึ่งต่อมานำทีมงานมาพิสูจน์อยู่ 1 สัปดาห์ ได้ผลสรุปสั้น ๆ ว่า คฤหาสน์โรงนาแห่งนี้อาจเป็นประตูมิติ หรืออาจมีการหักเห บิดเบี้ยงของเวลาตรงจุดนั้น ทำให้แต่ละห้องมีกาลเวลาแตกต่างกันออกไป

ค้นหาบล็อกนี้

รายการบล็อกของฉัน